*** งดตอบเรื่องจะผ่านหรือไม่ผ่านตม.ทุกกรณีค่ะ ***
ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เป็นขั้นตอนปกติที่นักท่องเที่ยวต้องพบในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนะคะ สำหรับ มือใหม่หัดเที่ยว ที่ยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย เรามีข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาแนะนำเพื่อเตรียมตัวเอาไว้ก่อน เมื่อเวลาที่เดินทางไปถึงแล้วจะได้ไม่ตื่นเต้น ทำผิดทำถูก และเพิ่มความมั่นใจที่จะไปเจอกับ ตม.เกาหลีค่ะ
ขั้นแรก
เรามาดูวิธีกรอก Arrival Card กันค่ะ (ควรกรอกให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่อง จะได้ไม่เสียเวลาและหากกรอกผิดก็ขอใบใหม่จากคุณแอร์ฯ ได้ค่ะ จะได้ไม่มีรอยขีดฆ่า ให้ดูน่าสงสัยอีก)
สำหรับช่อง “อาชีพ” นั้น ก็สามารถเลือกกรอกได้ตามนี้ค่ะ
ทำงานราชการ = GOVERNMENT OFFICE
พนักงานบริษัท = EMPLOYEE
ผู้จัดการ = MANAGER
นักธุรกิจ = BUSINESSMAN
ค้าขาย หรือ ธุรกิจส่วนตัว = MERCHANT
นักเรียน นักศึกษา = STUDENT
ขั้นที่สอง
กรอกใบผ่านศุลกากร(Customs Declaration) ก็ไม่ยากค่ะ ตรง “วันที่พำนัก” ก็ใส่ไปตามจริงเลยนะคะ ว่าเราจะมาเที่ยว(หรือมาเรียน) ที่เกาหลี กี่วัน กี่เดือน ก็ว่าไป “ที่พักในเกาหลี” ก็ใส่ชื่อโรงแรมได้เลยค่ะส่วน “ประเทศที่พำนักก่อนจะมาเกาหลี” ถ้าไม่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศมาก่อน ใส่ THAILAND ได้เลย ส่วนฝั่งขวามือ ปล่อยมันไว้อย่าไปใส่ใจค่ะ ไม่มีอะไร เป็นระเบียบการแจ้งไว้เฉยๆ ก็กรอกแค่ฝั่งซ้ายตามด้านล่างก็พอจ้า
สำหรับใครที่มีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลก็ขอให้นำเอกสารในการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลไปด้วย(ภาษาอังกฤษ)นะคะ และหากมีพาสปอร์ตเล่มเก่าก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลก็พกไปด้วยเช่นกันค่ะ
เมื่อเครื่องแลนดิ้งเรียบร้อย
หลังจากเดินลงจากเครื่องเรียบร้อยแล้ว เดินตามป้าย Arrivals มาเรื่อยๆเลยค่ะ เดินมาเรื่อยๆตามทางเดิน
จะมาถึงที่เคาน์เตอร์ Immigration (ตรวจคนเข้าเมือง) เพื่อตรวจ Passport และลงตราประทับเข้าเมือง คุณจะต้องแสดง Passport ของคุณ และ ใบ Arrival Card ที่กรอกกันบนเครื่องนะคะ ในกรณีเดินทางมากับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ควรต่อแถวเดียวกันและไม่ให้บุคคลอื่นมาคั่นกลาง เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่เวลาเค้าสอบถามรายละเอียดบางประการค่ะ
เมื่อเข้า Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้เดินไปต่อแถวที่ช่อง Foreigner Passenger นะคะ จากนั้น
1.ยื่น Arrival Card (ใบผ่านเข้าเมืองที่ได้รับจากแอร์ฯบนเครื่องบิน) และพาสสปอต ให้กับเจ้าหน้าที่ (ควรยิ้มและสบตาอย่าหลบสายตา อย่าหลุกหลิก และอย่าทำตัวมีพิรุธค่ะ) ส่วนใบ Customs Declaration เก็บไว้ก่อน
2.เมื่อเจ้าหน้าเช็คพาสสปอต และเอกสารแล้วนั้น จะหันมาบอกให้เราวางนิ้วมือลงบนเครื่องเพื่อแสกนลายนิ้วมือค่ะ(นิ้วชี้ทั้งสองข้าง) ซึ่งตั้งแต่มกราคม ปี 2012 เป็นต้นมา ทางด่านตม.เกาหลี ก็ได้นำวิธีการแสกนลายนิ้วมือนี้มาใช้สำหรับชาวต่างชาติที่มีอายุ 17 ขึ้นไป ที่ต้องการเข้าไปยังประเทศเกาหลีค่ะ
3.จากนั้น เจ้าหน้าที่ตม.จะให้เรามองมายังกล้องเพื่อทำการถ่ายภาพใบหน้า ซึ่งจะต้องไม่สวมแว่นไม่สวมหมวก และไม่คุยโทรศัพท์มือถือ
4.ในขั้นตอนนี้ อาจจะมีการสอบถามคำถามเล็กๆ น้อยๆ จากเจ้าหน้าที่ (บางคนก็ไม่โดนถามอะไรเลย)ซึ่งคำถามก็จะเป็นคำถามทั่วๆ ไป เช่น มากี่วัน มากับใคร ประมาณนี้ การโดนถามก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ และหากว่าเราไม่ได้มีพิรุธ หรือแสดงอาการผิดปกติใดๆ ให้เจ้าหน้าที่เคลือบแคลงสงสัยเจ้าหน้าที่ก็จะประทับตราให้เราผ่านเข้าประเทศไปอย่างง่ายดายค่ะ
หลังจากผ่านขั้นตอนด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วให้ดูประกาศที่บอร์ด ซึ่งจะแจ้งหลายเลขสายพาน (Belt) ที่คุณจะต้องไปรับกระเป๋า โดยจะบอก Flight Number กับ Belt Number ก็เดินลงบันไดเลื่อนเพื่อไปรับกระเป๋าเดินทางที่ชั้นล่าง จากนั้นก็ไปรับกระเป๋าเดินทางตามสายพานที่แจ้งได้เลยค่ะ
เมื่อได้รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเดินผ่านด่าน Customs (ศุลกากร) ให้คุณเดินเข้าที่ช่อง สีเขียว ซึ่งหมายถึงว่า ไม่มีอะไรต้องสำแดง (Nothing to Declare) นำ ใบผ่านศุลกากร(Customs Declaration) ที่เรากรอกไว้ตั้งแต่บนเครื่องออกมาเตรียมไว้ได้เลยค่ะ
เมื่อผ่านด่านศุลกากรออกมาแล้วก็จะมาถึงบริเวณที่คุณจะเลือกพาหนะในการเดินทางเข้าเมืองต่อไป
นอกนั้นก็เป็นเอกสารอื่นๆ เช่น แผนที่ และ โปรแกรมในการท่องเที่ยวประเทศเกาหลี เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจไร้กังวลอย่างสูงสุดจะพก จะเตรียมไป ก็ไม่เสียหายค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีอะไรที่ตม.เขาสงสัยเรา เขาก็ไม่ขอดูค่ะ แต่ถ้าหากเกิดมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เขาไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจเราและอัญเชิญเราไป “ห้องเย็น” คราวนี้ล่ะ แทบจะต้องรื้อค้นทุกอย่างที่มีออกมาให้ดูเลยเชียว เพราะฉะนั้น จะพกรึไม่พกไปก็ตามแต่ใจของแต่ละท่านเลยค่ะ
ศึกษาขั้นตอนต่างๆ ก่อนไป สำหรับมือใหม่ จะได้ไม่กังวลใจกันนะคะ
Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr และ seoulcafe2013.blogspot.com/2013/06/blog-post_27.html
